Sunday, September 20, 2009

วันวิปโยค วินาศสันตะโร วันสุดท้ายของโลก : The End of the World

วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

เท่าที่มีผู้รวบรวมมานี้ เป็นเรื่องภัยพิบัติจากทั่วโลก ซึ่งน่าแปลกใจมาก ทำไมการทำนายหลายๆอย่างในโลก มันถึงมาตรงกันที่ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) เวลาที่เหลืออีกแค่ 3 ปี เหล่ามนุษย์มัวทำอะไรกันอยู่นะ ควรเร่ง ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา กันนะ จะหมดเวลาทำแล้วล่ะ ..เลิกห่วงทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สิน เงินทอง รถยนต์ บ้าน มือถือ ฯลฯ ได้แล้วนะ เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้ เอาไปได้แค่ บุญ-บาป เท่านั้นเอง


คำประกาศขององค์การ NASA

ประกาศจากองค์การ NASA วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) วันนั้นแกนโลกของเราจะพลิกกลับขั้ว คือ ขั้วโลกเหนือจะมาอยู่ที่ขั้วโลกใต้ ช่วงเวลานั้น โลกของเราจะไม่มีสนามพลังแม่เหล็ก เพื่อป้องกันตัวเองจากสนามพลังแม่เหล็ก และ รังสีต่างๆจากอวกาศ

แล้ววันนั้นจะเป็นวันเดียวกับที่ ดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วเช่นกัน เพราะดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วทุกๆ 11 ปี ปีล่าสุดคือปี พ.ศ. 2544 ถ้ามาถึงวันนี้ก็ 11 ปีพอดี (2544 + 11 = 2555) ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังพลิกกลับขั้วนั้น ดวงอาทิตย์จะแผ่สนามแม่เหล็ก และรังสีความร้อนสูงมายังโลก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โลก ไม่มีสนามแม่เหล็กป้องกันตัวเอง ผลคือ น้ำแข็งขั้วโลกละลายฉับพลัน น้ำท่วมโลกฉับพลัน ไม่มีทางหนีได้ทัน ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

[อ้างอิง กรรมจริงๆ 22 ธ.ค พ.ศ. 2555 จะเกิดปรากฏการณ์แกนโลกพลิก และการพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ มันคือวันหายนะภัยพิบัติของโลก]

หลักฐานจากปฏิทินโบราณของชาวมายา

ชาวมายา (ชนเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) ทำปฏิทินใช้เองตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ชนเผ่ามายานี้มีความสามารถในการคำนวนการโคจร การเกิดดับของดวงดาวอย่างไม่น่าเชื่อ คือเขาสามารถคำนวนว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์โดยใช้เวลา 365 วัน ตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับปฏิทินที่ชาวโลกปัจจุบันใช้กัน แล้วยังสามารถคำนวนเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างแม่นยำมาก
ชาวมายายังกำหนดวันสุดท้ายของปฏิทินของพวกเขาคือ วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) พวกเขาบอกด้วยว่า วันนั้นโลกจะถึงจุดสิ้นสุด (โดยบอกไว้เมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว) น่าแปลกมาก ทำไมมาตรงกับองค์การ NASA อ่ะคะ ไม่น่าเชื่ออ่ะ
[อ้างอิง เวรกรรม ปฏิทินของชาวมายา (ชาวเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) นั้นสิ้นสุดในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) หรือวันนั้นโลกมนุษย์จะวิบัติ]

คำทำนายวันสิ้นโลก ของ ผู้วิเศษชาวตะวันตก


นอสตราดามุส


จีน ดิกสัน


เอดการ์ เคย์ซี


มาดาม บลาวัตสกี


กอร์ดอน สแกลเลียน



นอสตราดามุส(Nostradamus)
โหรชาวฝรั่งเศส บอกว่า เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง

จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างประเทศนับถือคริสต์กับประเทศนับถืออิสลาม
เริ่มด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของฝ่ายตะวันออกยิ่งเข้าใส่ฝ่ายตะวันตก

"เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้า จะมองเห็นดวงไฟขนาดมหึมา เสียงและแสงของมันมุ่งหน้าไปทางอควิลอน ซึ่งเป็นชาติที่อยู่เหนือสุด จะได้ยินเสียงร้องของคนที่กำลังจะตายดังเซ็งแซ่ในดินแดนต่างๆ ในปริมณฑลของมหาสมุทรอาร์คติก เพราะเครื่องมือที่ทำด้วยเหล็กกล้านี้เอง จะมีคนเสียชีวิตและประสบทุกภิกขภัยเพราะไฟมหึมาดวงนี้"

เหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดจากผลกระทบจากการใช้อาวุธนิวเคลีย์ ทำให้แกนโลกเกิดการเปลี่ยแปลงและส่งผลตามมา เช่น

“จะมีหินกลมขนาดบักษ์(ก้อนอุกกาบาต)ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งไมล์ หมุนลอยละล่องตกลงจากท้องฟ้าลงมาสู่โลก ผลของการตกลงมาของหินก้อนนี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในประเทศใหญ่ๆ ที่มีอายุเก่าแก่ในโลกหลายประเทศ”

"มหานครแห่งห้วงมหาสมุทร(กรุงลอนดอน) ถูกน้ำท่วมและน้ำกลายเป็นน้ำแข็งในเดือนธีนวาคม และในฤดูใบไม้ผลิ มหานครแห่งนี้ประสบภัยพิบัติจากมหาวาตภัย"

นางจีน ดิกสัน( Jeane Dixon)
โหรชาวสหรัฐอเมริกา ได้มองเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยตาใน และกล่าวว่า

“ดิฉันเห็นดาวหางดวงหนึ่งโคจรมาประทะโลกของเรา ผลของการปะทะกันระหว่างโลกกับดางหางครั้งนี้ จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดคลื่นยักษ์อย่างรุนแรงในมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ผลที่ติดตามมาก็คือหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่โลกเคยประสบมา”

เอ็ดการ์ เคย์ซี(Edgar Cayce)
โหรในมลรัฐเคนตั้กกี้ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยทำนายว่า

“วันหนึ่ง ในยุโรปตอนเหนือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในชั่วพริบตาเดียว เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา”
"จะเกิดแผ่นดินไหวในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มีความรุนแรงบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก"
"พื้นที่ในนครนิวยอร์กและคอนเนคติคัต เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเนื่องจากเกิดจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นครนิวยอร์กจมหายอย่างไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ ดินแดนในทางภาคใต้ของรัฐนอร์ทคาโรไลนา รัฐเซาท์คาโรไลนา และรัฐจอร์เจีย จะเกิดภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง"

จอห์น เพ็นดรากอน(John Pendragon)
คนทรงชาวอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 25413 เคยพยากรณ์ว่า

ที่ประเทศอังกฤษ“ส่วนหนึ่งของกรุงลอนดอนจะจมอยู่ใต้น้ำ และแผ่นดินในที่ลุ่มของประเทศอังกฤษจะมีน้ำท่วมเจิ่งนองไปทั่ว”

ที่สหรัฐอเมริกา"พื้นที่ทกแห่งหนตามฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก นับตั้งแต่เมืองบอสตันไปจนถึงเมืองบัลติมอร์ จะพบความพิบัติอย่างย่อยยับ ความวิบัติครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่นครนิวยอร์กและส่งผลทำลายล้างไปในรัศมี 500 ไมล์ เมืองที่ถูกทำลายในครั้งนี้รวมถึงเมืองพิตต์เบิร์กและเมืองฟิลาเดลเฟีย เหมืองเหล่านี้ถูกทำลายอย่างย่อยยับโดยไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ จะมีที่เหลืออยู่ก็แค่แผ่นดินที่ตั้งเมืองเหล่านั้นเท่านั้น"

มาดาม บลาวัตสกี(Madame Blavatsky)
ผู้ลึกลับและคนทรงชาวรัสเซีย เคยเขียนไว้เมื่อ พ.ศ. 2425 ว่า

ที่ประเทศอังกฤษ “เกาะต่างๆในประเทศอังกฤษจะรวมอยู่ในชาติอื่นๆที่ประสบกับความเสียหายอย่างร้ายแรงอันสืบเนื่องมาจากแผ่นดินถล่มและเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรง"

มัลทาซาร์ มาส (Malthasar Mas)
โหรอังกฤษ ในคริสต์ศตวรรษที่ 17

เคยนั่งงทางในเห็นเกาะๆหนึ่งถูกน้ำท่วมหนักจนถูกกลืนหายไปในทะเล หลังจากนั่งทางในแล้ว มัลทาซาร์ มาส ยังอ้างด้วยว่า ตนนอนหลับฝันเห็นภาพเหตุการณ์ขณะน้ำกำลังขึ้นทีละน้อยๆ จนกระทั่งท่วมตึกรามบ้านช่องสูงๆ ต่อมาน้ำก็ลดลงๆ จนกระทั่งสามารถมองเห็นหอคอยและตึกรามบ้านช่องส่วนบนๆอีกครั้งหนึ่ง
และมีเสียงหนึ่งมากระซิบบอกเขาว่า สิ่งที่เขาเห็นอยู่นั้นคือเกาะอังกฤษ ที่กำลังโผล่จากทะเลอีกครั้งหนึ่งหลังจากถูกน้ำท่วมอยู่ระยะหนึ่ง

จิม กาวิน (Jim Gavin)
โหรชาวไอริช ทำนายถึงความพิบัติที่จะบังเกิดแก่สหรัฐอเมริกาว่า

"นครนิวยอร์กจะทรุดจมลงในน้ำ สตาเต็นไอส์แลนด์จะจมน้ำ เหมือนกับแพที่ถูกดูดจมหายไปใต้น้ำ ย่านแมนฮัตตันที่อยู่ในย่านที่ต่ำจะจมหายลงไปในอ่าว น้ำท่วมถึงถนนเลขที่ 59"

นายกอร์ดอน ไมเคิล สกอลเลียน(Gordon-Michael Scallion)
เป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist)ชาวสหรัฐอเมริกา มีญาณทัศนะ(Spiritual Visionary) คือมองเห็นอนาคตด้วยญาณ มีความแม่นยำมาก

เขาได้ทำนายว่า

“น้ำกำลังจะท่วมโลก จนหลายประเทศหายไปจากแผนที่ ประเทศที่เป็นเกาะจะจมน้ำทั้งหมด ประชากรโลกที่รอดตายมีเพียง 10% เท่านั้น เขาเชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012 (พ.ศ.2541-พ.ศ.2555)”
และเขาได้สร้างแผนที่โลกใหม่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งประเทศไทยทั้งประเทศเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

แผนที่โลกใหม่ หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ทวีปเอเซีย หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ทวีปแอฟริกา หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ทวีปยุโรป หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ทวีปออสเตรเลีย หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

คำกล่าวของหลวงปู่สรวง



หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล (ท่านละสังขารเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะโรง )
สรีระสังขารของท่านตั้งอยู่ที่ศาลา"ออยเตียนสรูล" วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ)

ท่านกล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

รายละเอียดเรื่องนี้มีว่า ท่านพระครูจันทธรรมานุโยค (ลมัย จันทโร) อายุ 80 ปี เจ้าอาวาสวัดโคกตาเขียว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่หลวงปู่สรวงเดินทางมาพบโดยที่ท่านไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อมาถึงแล้วหลวงปู่ก็ได้กระทำกฤษดาภินิหารให้ท่านพระครูได้เห็นหลายอย่างเป็นที่น่าอัศจรรย์ เช่น ตีฆ้องใหญ่ด้วยไม้นวมจนปุ่มตียุบเข้าไป เรียกเงินธนบัตรและเหรียญให้หล่นลงมาจาก ‘อากาศ’ แล้วมอบให้ท่านพระครูเก็บไว้สร้างวัด ฯลฯ

อภินิหารเหล่านี้ท่านแสดงให้ท่านพระครูได้พบเห็นเพื่อเป็นการปลูกศรัทธา หลวงปู่สรวงมาหาท่านพระครูนับได้ทั้งสิ้นราว 7 ครั้ง ครั้งที่ 6 เป็นสิ่งที่มาสัมพันธ์กับเรื่องราวของพวกเรา กล่าวคือหลวงปู่สรวงได้พูดกับท่านพระครูลมัยเป็นภาษาเขมรราวกับคำสั่งเสียมีใจความว่า:

“ในปีพ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมโลกใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะตายไปมาก ส่วนคนดีคนมีศีลธรรมจะอยู่รอดปลอดภัยได้

ปี 2555 นะ คนที่ว่าเก่งอยู่ในเมืองไทยจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่มุมไหนของประเทศก็แล้วแต่ พ่อแม่ญาติพี่น้องไม่ต้องสู้นะ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดทะเลาะกันนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย

แล้วพวกที่ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นี่นะ ไปก่อน นางนาคเป่าน้ำทะเลเต็มหมด มันจะไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่า ๆ น้ำก็ตีเข้ามาท่วมภูเขา มีทั้งขี้ดินขี้โคลนเข้ามา พวกทำไม่ดีตายหมด

เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง ไม่ต้องกลัวเลย 2555 นางนาคเป่าน้ำท่วมทั้งน้ำทั้งดินตายวอด คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย คนดีมันเป็นเอง ไม่ตาย จะรอด คอยดูเถอะ นางนาคจะกลับเอาน้ำขึ้นข้างบนสามวันสามคืน มีลูกเห็บ ถูกใครตายระเนระนาดนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก เพราะเราไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัวนะ คนที่กบฏ คนที่อยากชนะผืนแผ่นดินตายแน่”

หลวงพ่อลมัยนั้นมีความเชื่อในหลวงปู่สรวงเป็นทุนอยู่แล้ว เมื่อท่านพูดขนาดนี้จึงมีความตื่นตระหนกอยู่มิใช่น้อย ได้บอกกับหลวงปู่สรวงว่า

“ถ้าน้ำท่วมมากขนาดนั้น อย่าว่าแต่คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมเลย แม้คนดีก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน จะทำอย่างไรได้ พอมีหนทางช่วยเหลือไหม”

หลวงปู่สรวงนิ่งอยู่อึดใจจึงบอก ‘คาถา’ เพื่อเป่าน้ำไม่ให้ท่วมตัวมีใจความที่ออกเสียงตามภาษาเขมรจริง ๆ ว่า

“อ้ม เกร๊อะ เกร๊อะ เกร๊อะ เตียงตึ๊ก เกร๊อะ ตึงได อ้มสติสวาหะ”


Popular Posts