Sunday, September 20, 2009

คำทำนายวันสิ้นโลก ของ ผู้วิเศษชาวตะวันตก


นอสตราดามุส


จีน ดิกสัน


เอดการ์ เคย์ซี


มาดาม บลาวัตสกี


กอร์ดอน สแกลเลียน



นอสตราดามุส(Nostradamus)
โหรชาวฝรั่งเศส บอกว่า เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง

จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างประเทศนับถือคริสต์กับประเทศนับถืออิสลาม
เริ่มด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของฝ่ายตะวันออกยิ่งเข้าใส่ฝ่ายตะวันตก

"เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้า จะมองเห็นดวงไฟขนาดมหึมา เสียงและแสงของมันมุ่งหน้าไปทางอควิลอน ซึ่งเป็นชาติที่อยู่เหนือสุด จะได้ยินเสียงร้องของคนที่กำลังจะตายดังเซ็งแซ่ในดินแดนต่างๆ ในปริมณฑลของมหาสมุทรอาร์คติก เพราะเครื่องมือที่ทำด้วยเหล็กกล้านี้เอง จะมีคนเสียชีวิตและประสบทุกภิกขภัยเพราะไฟมหึมาดวงนี้"

เหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดจากผลกระทบจากการใช้อาวุธนิวเคลีย์ ทำให้แกนโลกเกิดการเปลี่ยแปลงและส่งผลตามมา เช่น

“จะมีหินกลมขนาดบักษ์(ก้อนอุกกาบาต)ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งไมล์ หมุนลอยละล่องตกลงจากท้องฟ้าลงมาสู่โลก ผลของการตกลงมาของหินก้อนนี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในประเทศใหญ่ๆ ที่มีอายุเก่าแก่ในโลกหลายประเทศ”

"มหานครแห่งห้วงมหาสมุทร(กรุงลอนดอน) ถูกน้ำท่วมและน้ำกลายเป็นน้ำแข็งในเดือนธีนวาคม และในฤดูใบไม้ผลิ มหานครแห่งนี้ประสบภัยพิบัติจากมหาวาตภัย"

นางจีน ดิกสัน( Jeane Dixon)
โหรชาวสหรัฐอเมริกา ได้มองเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยตาใน และกล่าวว่า

“ดิฉันเห็นดาวหางดวงหนึ่งโคจรมาประทะโลกของเรา ผลของการปะทะกันระหว่างโลกกับดางหางครั้งนี้ จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดคลื่นยักษ์อย่างรุนแรงในมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ผลที่ติดตามมาก็คือหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่โลกเคยประสบมา”

เอ็ดการ์ เคย์ซี(Edgar Cayce)
โหรในมลรัฐเคนตั้กกี้ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยทำนายว่า

“วันหนึ่ง ในยุโรปตอนเหนือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในชั่วพริบตาเดียว เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา”
"จะเกิดแผ่นดินไหวในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มีความรุนแรงบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก"
"พื้นที่ในนครนิวยอร์กและคอนเนคติคัต เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเนื่องจากเกิดจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นครนิวยอร์กจมหายอย่างไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ ดินแดนในทางภาคใต้ของรัฐนอร์ทคาโรไลนา รัฐเซาท์คาโรไลนา และรัฐจอร์เจีย จะเกิดภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง"

จอห์น เพ็นดรากอน(John Pendragon)
คนทรงชาวอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 25413 เคยพยากรณ์ว่า

ที่ประเทศอังกฤษ“ส่วนหนึ่งของกรุงลอนดอนจะจมอยู่ใต้น้ำ และแผ่นดินในที่ลุ่มของประเทศอังกฤษจะมีน้ำท่วมเจิ่งนองไปทั่ว”

ที่สหรัฐอเมริกา"พื้นที่ทกแห่งหนตามฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก นับตั้งแต่เมืองบอสตันไปจนถึงเมืองบัลติมอร์ จะพบความพิบัติอย่างย่อยยับ ความวิบัติครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่นครนิวยอร์กและส่งผลทำลายล้างไปในรัศมี 500 ไมล์ เมืองที่ถูกทำลายในครั้งนี้รวมถึงเมืองพิตต์เบิร์กและเมืองฟิลาเดลเฟีย เหมืองเหล่านี้ถูกทำลายอย่างย่อยยับโดยไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ จะมีที่เหลืออยู่ก็แค่แผ่นดินที่ตั้งเมืองเหล่านั้นเท่านั้น"

มาดาม บลาวัตสกี(Madame Blavatsky)
ผู้ลึกลับและคนทรงชาวรัสเซีย เคยเขียนไว้เมื่อ พ.ศ. 2425 ว่า

ที่ประเทศอังกฤษ “เกาะต่างๆในประเทศอังกฤษจะรวมอยู่ในชาติอื่นๆที่ประสบกับความเสียหายอย่างร้ายแรงอันสืบเนื่องมาจากแผ่นดินถล่มและเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรง"

มัลทาซาร์ มาส (Malthasar Mas)
โหรอังกฤษ ในคริสต์ศตวรรษที่ 17

เคยนั่งงทางในเห็นเกาะๆหนึ่งถูกน้ำท่วมหนักจนถูกกลืนหายไปในทะเล หลังจากนั่งทางในแล้ว มัลทาซาร์ มาส ยังอ้างด้วยว่า ตนนอนหลับฝันเห็นภาพเหตุการณ์ขณะน้ำกำลังขึ้นทีละน้อยๆ จนกระทั่งท่วมตึกรามบ้านช่องสูงๆ ต่อมาน้ำก็ลดลงๆ จนกระทั่งสามารถมองเห็นหอคอยและตึกรามบ้านช่องส่วนบนๆอีกครั้งหนึ่ง
และมีเสียงหนึ่งมากระซิบบอกเขาว่า สิ่งที่เขาเห็นอยู่นั้นคือเกาะอังกฤษ ที่กำลังโผล่จากทะเลอีกครั้งหนึ่งหลังจากถูกน้ำท่วมอยู่ระยะหนึ่ง

จิม กาวิน (Jim Gavin)
โหรชาวไอริช ทำนายถึงความพิบัติที่จะบังเกิดแก่สหรัฐอเมริกาว่า

"นครนิวยอร์กจะทรุดจมลงในน้ำ สตาเต็นไอส์แลนด์จะจมน้ำ เหมือนกับแพที่ถูกดูดจมหายไปใต้น้ำ ย่านแมนฮัตตันที่อยู่ในย่านที่ต่ำจะจมหายลงไปในอ่าว น้ำท่วมถึงถนนเลขที่ 59"

นายกอร์ดอน ไมเคิล สกอลเลียน(Gordon-Michael Scallion)
เป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist)ชาวสหรัฐอเมริกา มีญาณทัศนะ(Spiritual Visionary) คือมองเห็นอนาคตด้วยญาณ มีความแม่นยำมาก

เขาได้ทำนายว่า

“น้ำกำลังจะท่วมโลก จนหลายประเทศหายไปจากแผนที่ ประเทศที่เป็นเกาะจะจมน้ำทั้งหมด ประชากรโลกที่รอดตายมีเพียง 10% เท่านั้น เขาเชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012 (พ.ศ.2541-พ.ศ.2555)”
และเขาได้สร้างแผนที่โลกใหม่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งประเทศไทยทั้งประเทศเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

No comments:

Post a Comment

Popular Posts